ตอน 2 ลี่เจียงที่รัก
ทริป คุณหมิง ลี่เจียง แชงกรีล่า
Plan Trip : BKK -> Kunmin (Airplane) -> Lijiang (Train) ->Shangri-la(Bus)
Lijiang -> Kunming ->BKK
ทริปนี้ไปมาเมื่อหลังปีใหม่ 2560 5-12 ม.ค. 2560 (กว่าจะมาบันทึกได้ ก็เกือบปีพอดี อิอิ)
ตั๋วเครื่องบิน Airasia กรุงเทพ-คุณหมิง ออกเดินทางจากดอนเมือง 9 โมงเช้า ถึงคุณหมิง 12.30 น.
เวลาที่จีนเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง
ความเดิมตอนที่แล้วเราเดินทาง จากกรุงเทพ มาคุณหมิง และนั่งรถไฟต่อมาลี่เจียง
รถไฟใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง ก็มาถึงสถานีรถไฟลี่เจียง (Lijiang Railway Station)
เปิดแอป weather เช็คอากาศ คุณพระ 0 องศาจ้า หนาว เย็น ขนลุก แต่ชอบอะ ฟิน อิอิ
รูปนี้ตอนออกจากรถไฟ เดินลงไปข้างล่าง คนเยอะมากเลยแฮะ คนจีนก็มาเที่ยวกัน
ตอนนี้หกโมงกว่าๆ ยังมืดสนิทอยู่เลย พอเดินออกมาจากสถานีรถไฟก็ไม่รู้จะไปทางไหน
พี่บั๊มหาห้องน้ำเข้า แต่ก็ไม่ได้เข้า เพราะเจอทอง T_T สกปรกมาก
ควรหลีกเลี่ยงห้องน้ำที่สาธารณะยืนงงๆ อยู่ก็มีพวกรถเช่าเดินเข้ามาถามว่าจะไปไหน
เราบอกไปเมืองเก่าลี่เจียง (ส่งที่อยู่โรงแรมให้ดู)
นางก็บอกว่าไปรถนางมั๊ย หารกับนักท่องเที่ยวคนอื่น เป็นรถตู้เล็กๆ นั่งได้ 5 ที่
เห็นว่าราคารับได้ ไม่แพง และเค้าจะไปส่งถึงที่เลย ก็เลยตกลงไปด้วย
คนขับแวะจอดส่งคนอื่นๆ จนมาถึงเรา เค้าจอดหน้าเมืองเก่าและชี้ๆให้เดินเข้าไป
เพราะรถเข้าไม่ได้ ตอนแรกก็นึกว่าถูกหลอกซะละ ไม่ได้ทำการบ้านมา
ว่าที่พักอยู่ในโซนเมืองเก่าพวกรถโดยสารต้องอยู่รอบนอก
มาถึงแล้วก็ยังมืด คงเช็คอินไม่ได้แน่ๆเจอร้าน KFC (ดีใจมาก) ก็เลยเข้าไปหาอะไรกินอุ่นๆ
เพราะตอนนี้หนาวมากๆ สั่งกาแฟร้อน เฟรนช์ฟราย และปาท่องโก๋ ฟินสุดๆ
นั่งเล่นซักพัก แดดก็เริ่มออกแล้ว เห็นเมืองเก่าลี่เจียงเต็มตา สวยมากๆ ชอบมากเลย ปลื้มมม
แต่พวกร้านค้ายังไม่ค่อยเปิด เพราะยังเช้าอยู่ เราก็เลยเปิดเน็ต ดูแผนที่ เดินไปโรงแรม
ถึงแล้วๆๆๆ เกือบหลง แต่ไม่หลง เพราะเป็นซอยเล็กซอยน้อย
ที่พักเราคือ Ancient Town International Youth Hostel แค่ด้านหน้าก็คลาสสิค
ค่าที่พัก 312 หยวน 4 คืน ( ตกคนละ 426 บ. / คืน)
ที่นี่เป็นห้องแบบ dorm (เตียง 2 ชั้น นอนหลายคนใน 1 ห้อง และแบบห้องปกติ
เราจองแบบห้องปกติ(ห้องน้ำในตัว) มีแผ่นที่นอนไฟฟ้า น้ำอุ่น air / heater
ยืมไดร์เป่าผมได้ (มีค่ามัดจำกุญแจ) แอบเสียอย่างนึงคือที่พักเป็นบ้านเก่า
ผนังเป็นไม้ มีรูเยอะไปหน่อย อากาศหนาวลอดเข้ามาได้ ต้องหาอะไรอุด ฮ่าๆ
หนาวเจี๊ยกเลย
ด้านในโรงแรม พื้นที่ส่วนกลาง
เข้าที่พัก เก็บของ อาบน้ำ (เพราะไม่ได้อาบมา 2 วัน ฮ่าๆ) พักผ่อนนิดหน่อย ก็ออกไปเดินเล่น
และหาข้าวเช้า (มื้อสายๆ) กิน แดดออกเต็มที่แล้ว ฟ้าสวยมากๆ อากาศดีสุด (12 องศา)
มุมมอง Ancient Town ด้านหน้า ขวามือเป็นหมู่บ้านบนเขา เดินเล่นได้ แต่ต้องมีตั๋วเข้า คนละ 80 หยวน
จ่ายครั้งเดียว แสดงตั๋วได้ตลอด เนื่องจากเราพักในโซนเมืองเก่า ต้องเดินเข้าออกหลายครั้ง
ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตั๋วบริเวณด้านหน้า
วิวด้านหน้าเป็น Jade Dragon Snow Mountain สวย ยิ่งใหญ่ ตะลึงมากๆ
รูปถ่ายออกมาไม่เท่าตาเห็นเลยล่ะ
ด้านหน้า จะมีโซนร้านอาหารที่ดูดีมากๆ ชื่อ Snack City คนขายใส่ชุดเชฟ
มีร้านอาหารต่างๆเต็มไปหมด ก็เลยฝากท้องมื้อแรกในนี้ละกัน
(มารู้ทีหลังว่าอาหารในนี้แพงกว่าร้าน Local ข้างนอกโซนเมืองเก่า)
เราเดินๆดูแต่ละร้าน อยากกินอะไรร้อนๆ มาจบที่ก๋วยเตี๋ยวชามยักษ์
สั่งไม่เป็นหรอก ชี้ๆเอา (วัดดวงล้วนๆ) ฮ่าๆ ได้ออกมาหน้าตาประมาณนี้
อร่อยดีเหมือนกัน ใส่ไข่ด้วย
ปะ อิ่มแล้ว ไปเดินเที่ยวกัน ขึ้นภูเขาเลย 55 เป็นเมืองบ้านโบราณ อยู่ลดหลั่นขึ้นไปบนเขา
ดูรูปกันยาวๆเลย
รูปไฮไลท์ของลี่เจียง ก็ต้องถ่ายจากบนเขาลงมาข้างล่าง (เราพักด้านล่าง)
เดินชมนก ชมไม้ ดูบ้านเก่าไปเรื่อยๆ สวยมาก เพลินมาก ได้เห็นวิถีชีวิตคนท้องถิ่นที่นี่บ้างเล็กๆ
เมืองเก่า แต่ก็ยังมีคนอาศัยอยู่ หลักๆคงเกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยวนี่แหล่ะ
รูปคู่ (ไม่มี) เพราะไปกันสองคน 555 ผลัดกันถ่าย เอามาวางคู่กันละกัน
เดินบนเขาพักใหญ่ๆ ก็วนๆแล้วก็ลงมาข้างล่าง ซึ่งก็เป็นหมู่บ้านเก่านั่นแหล่ะ แต่ตอนนี้
กลายเป็นร้านค้าหมดแล้ว จะมีลำธารไหลผ่าน ซึ่งจริงๆมีปั๊มน้ำช่วยนะ กลางคืนก็ปิด
ไปเมืองไหน ต้องมีเจ้าเหมียวนะ มาๆ ขอถ่ายหน่อย แมวนอนอาบแดด หนาวขนแตกเลยล่ะ อิอิ
เดินมาเจอการแสดงพื้นถิ่น เสื้อผ้าจัดเต็มมาก น่าจะมีแสดงวันละหลายรอบอยู่มั้ง
ที่นี่ จะมีร้านขายกลองอยู่เยอะมาก แต่ละร้านก็จะมีสาวจีนน่ารักๆ ตีกลองประกอบเพลง
ดึงดูดให้คนเข้ามาซื้อกลอง รู้สึกว่าจะสอนตีให้ด้วย เท่าที่เห็นไม่ค่อยมีคนซื้อแฮะ
มีแต่ยกมือถือมาถ่ายรูปสาว (ร้านนี้น่ารักมาก แนวเกาหลีเลย)
วันแรกก็รู้สึกสนุกที่ได้ยินเสียงเพลงนะ แต่พอวันหลังๆ หลอนมาก
เพลงยังติดหูอยู่เลย ลองฟังดู 555
VIDEO
ร้านขายชุดแฟชั่นกันหนาว มีหลายร้าน ราคาก็ไม่แพง
แต่ไม่รู้จะซื้อมาใส่ในเมืองไทยไหวมั๊ย ก็… ไม่ซื้อดีกว่า อิอิ
ในเมืองเก่านี้ จะมีโซนตรงกลางที่คนหนาแน่น แต่พอเดินออกไปเรื่อยๆ คนก็จะน้อยลง
และได้เห็นความสงบ สวยงาม เห็นวิถีชีวิตของคนที่นั่นด้วย
ใบไม้เปลี่ยนสี สีสวยจัง ยืนมองอยู่นานเลย
เดินจนเหนื่อย อยากพักแล้ว ซึ่งตอนนี้เดินไปเดินมาจนหลง หาทางออกจากซอยไม่เจอ
ก็เลยตั้งหลัก เดินออกมาตรงล้อกังหันที่อยู่ด้านหน้า แล้วค่อยเดินกลับที่พัก
บ่ายแล้วด้วย ไม่รู้จะกินอะไร ก็เลยซื้อมาม่าจีน มานั่งกินในที่พัก( ไม่อร่อย ฮือ คิดถึงมาม่าไทย)
หลังมื้อเที่ยง หนังท้องตึง หนังตาหย่อน และเมื่อคืนนอนบนรถไฟไม่เต็มอิ่ม (กลัวตกเตียง)
ก็เลยนอนพักเอาแรงซักหน่อย หลับๆตื่นๆ เพลินๆ อ้าว ห้าโมงเย็นละหรอ ไป ออกไปเดินต่อ
ออกจากที่พักแล้วเดินไปอีกทางที่ไม่ซ้ำกับเมื่อเช้า เจอร้านกาแฟ (ซะที) ชื่อ Iris Cafe&Library
เค้ก กับ กาแฟ แพงมาก (แก้วละเกือบสองร้อยบาท) กาแฟก็พอได้ แต่เข็ดละ แพงไป๊
อิ่มกาแฟแล้ว ออกเดินต่อ คราวนี้มาเจอโซนร้าน ชิคๆ เก๋ๆ แนวดีไซน์
เจ้าของร้านเป็นคนรุ่นใหม่ กรี๊ดกร๊าดเลยล่ะ ถ่ายรูปเพลิน ได้แวะซื้อโปสการ์ดนิดหน่อย
โซนร้านรอบนอกนี้ เริ่มเป็นร้านแบบ local ร้านเล็กๆ ที่นั่งไม่เยอะ มีแนวข้าวแกง
แนวปิ้งย่าง แนวหม้อไฟ
ค่ำแล้ว หิวแล้วด้วยเนื่องจากมื้อเที่ยงกินไปแค่มาม่าคนละถ้วย มื้อเย็นเลยตัดสินใจเข้าร้านปิ้งย่าง
แอบมองเข้าไป เห็นแล้วว่ามีผักเยอะ มีเต้าหู และมีคนนั่งอยู่ในร้านหลายโต๊ะ
เตาเป็นหิน (ราคาก็เสี่ยงเอา กะๆเอาจากราคาที่เขียนติดจานวัตถุดิบ )
ร้านปิ้งย่างที่นี่วิธีกินก็คล้ายๆกับร้านหม้อไฟ คือ ไปหยิบผัก หยิบเนื้อสัตว์ที่เสียบไม้
หรือเป็นจานๆที่อยู่ในตู้เย็น ปรุงน้ำจิ้มเอง มีซอสหลายแบบให้เลือก
แล้วเค้าจะมาคิดเงินทีหลัง มื้อนี้ราคา 88 หยวน
กินอิ่ม พลังกลับคืนมา ฮ่าๆ ไปเดินเล่นต่อกันเลย ดู night life of Lijiang อัน
กลายเป็นว่า กลางคืนคึกคักมาก ที่นี่เหมือนเริ่มมีชีวิตตอนบ่ายๆนะ ร้านก็เปิดเต็มที่ช่วงบ่าย
ฉะนั้น เวลาซักสองสามทุ่มนี่คนจีนกำลังมาเดินเล่นกันเลยแหล่ะ คึกคักมาก
และเค้าก็จัด lighting ได้สวยมากๆ กลายเป็นเมืองเก่าที่มีเสน่ห์ยามค่ำคืน
แต่ไม่ควรเดินไปตามซอยที่คนน้อยๆนะ แอบน่ากลัวนิดนึง
วันนี้หมดแรงละ เป็นวันที่คุ้มค่าจริงๆ ประทับใจเมืองเก่าลี่เจียงสุดๆ
นอนเอาแรง เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปลุย เมืองเก่าซู่เหอ , ภูเขาหิมะมังกรหยก กันต่อ